product image

select caret down
รับส่วนลดเพิ่ม 5% ทันที เมื่อเพิ่มสินค้าลงตะกร้าตอนนี้ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)
บริษัทขออภัยในความไม่สะดวก และความไม่ครบถ้วนของข้อมูลบนเว็บไซต์ ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้เว็บไซต์อยู่ระหว่างกระบวนการปรับปรุงและพัฒนา หากผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. +66 (0) 2 625 1188 ต่อ 3208 หรืออีเมล ir@jubileediamond.co.th

Company Background

ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการที่สำคัญ

บริษัทได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด ในชื่อ บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2536 ด้วยทุนจดทะเบียน เริ่มแรก 10,000,000.00 บาท บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงและ พัฒนาการที่สำคัญของบริษัท โดยสังเขป มีดังต่อไปนี้

ปี 2536
  • นายวิโรจน์ พรประกฤตก่อตั้งบริษัทโดยใช้ชื่อว่า "บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด" โดยมีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
ปี 2537
  • เปิดสาขาในรูปแบบเคาน์เตอร์จำหน่ายเพชรแห่งแรกที่ห้างสรรพสินค้าเยาฮัน ถือเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายแบบเคาน์เตอร์ครั้งแรกในธุรกิจจำหน่ายเครื่องประดับเพชรในประเทศไทย
ปี 2538
  • เริ่มดำเนินธุรกิจในรูปแบบลักษณะสาขาที่เป็นของผู้ประกอบการธุรกิจซึ่งทำสัญญาในลักษณะคล้ายแฟรนไชส์ ในเขตกรุงเทพฯปริมณฑล และ ภาคกลาง ก่อนจะขยายไปยัง ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำการจำหน่ายสินค้าลักษณะนี้มาใช้ในธุรกิจเครื่องประดับเพชร โดยมีสาขารวม 10 สาขา
ปี 2540
  • ปรับกลยุทธ์การจำหน่าย และเริ่มขยายช่องทางการจำหน่ายโดยมีการเปิดเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่นห้างเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะ มอลล์ และห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น โดยมีสาขารวม 15 สาขา
ปี 2544
  • ดำเนินแผนการตลาดร่วมกับบริษัทบัตรเครดิต โดยการแสดงรายการสินค้าและจัดจำหน่ายผ่านจดหมายโฆษณา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับธุรกิจจำหน่ายเครื่องประดับอัญมณี
ปี 2546
  • เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายในต่างจังหวัด บริษัทได้เพิ่มสาขาประเภทเคาน์เตอร์ ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และไฮเปอร์มาร์ท เช่น เทสโก้ โลตัส และ บิ๊กซี ณ สิ้นปี 2546 โดยมีสาขารวม 37 สาขา
ปี 2547
  • บริษัทมีสาขาทั่วประเทศ รวม 45 สาขา
ปี 2549
  • ได้รับรางวัล "Super Brand Winner 2005" ซึ่งจัดโดย "นิตยสารสรรสาระ" (Reader's Digest) ในสาขา "สินค้าที่ให้ความพึงพอใจแก่ลูกค้าสูงสุด" บริษัทมีสาขาทั่วประเทศ รวม 50 สาขา
ปี 2550
  • สร้างมาตรฐานในการซื้อขายเพชรโดยให้ความรู้กับลูกค้า เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของใบรับประกันจากสถาบันในต่างประเทศ ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเริ่มการจำหน่ายเพชรขนาด 1 กะรัตโดยมีใบรับรองจากสถาบัน HRD (Hoge Raad voor Diamant) Certificate ประกอบสินค้า ซึ่งใบรับรองนี้ออกโดย Diamond High Council ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อเพิ่มความมั่นใจกับลูกค้ามากกว่าการจำหน่ายเพชรในรูปแบบเดิม
  • เปิดศูนย์จำหน่ายเพชร HRD แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายเครื่องประดับเพชรที่เน้นจำหน่ายเฉพาะเพชรที่มีใบรับประกัน HRD ณ โรงแรม แพนแปซิฟิก กรุงเทพมหานคร
  • ร่วมมือกับ บริษัทกรุงไทย ลิสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย ในการซื้อขายเครื่องประดับเพชรของบริษัทผ่านสาขาทุกสาขาของ ธนาคารกรุงไทย โดยผู้ซื้อสามารถชำระค่าสินค้าเป็นเงินผ่อนผ่านช่องทางของธนาคารกรุงไทย
  • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2550 ได้มีมติพิเศษให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 10,000,000 บาท เป็น 40,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
  • ได้มีการซื้อสินค้าคงเหลือของห้างหุ้นส่วนจำกัด เพชรยูบิลลี่ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกัน โดยมีหุ้นส่วนผู้จัดการคือนายสุนทร พรประกฤต บิดาของนายวิโรจน์ พรประกฤต รองประกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท และได้สิทธิในการใช้พื้นที่เดิมของห้างหุ้นส่วนจำกัดเพชรยูบิลลี่ จัดตั้งเป็นสาขาสะพานเหล็ก ซึ่งจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้า "ศูนย์เพชร" และ "เพชรยูบิลลี่"

ปี 2551
  • เริ่มการจำหน่ายเพชรที่มีใบรับประกันจาก สถาบัน GIA (Gemological Institute of America) ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือก และเป็นการสร้างความมั่นใจในคุณภาพให้กับลูกค้า
  • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2551 ได้มีมติพิเศษให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 40,000,000 บาท เป็น 120,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท
  • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2551 ได้มีมติพิเศษให้แปรสภาพเป็นบริษัท มหาชนจำกัด และได้มีมติให้เปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจากหุ้นละ 100 บาท เป็น หุ้นละ 1 บาท
  • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ได้มีมติพิเศษให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 120,000,000 บาท เป็น 175,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 55,000,000 หุ้น ทั้งนี้ บริษัทได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 15,000,000 หุ้น ไว้เสนอขายนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 35,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป ส่วนอีก 5,000,000 หุ้น จัดสรรเพื่อสำรองไว้สำหรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกให้แก่พนักงาน โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 120,000,000 บาท
  • เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 บริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่สำรองไว้เสนอขายนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 15,000,000 หุ้น ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 135,000,000 บาท
  • ณ 31 ธันวาคม 2551 มีสาขาทั่วประเทศรวม 60 สาขา

ปี 2552
  • วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 บริษัทเข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ
  • ณ 31 ธันวาคม 2552 มีสาขาทั่วประเทศรวม 73 สาขา
ปี 2553
  • วันที่ 28-30 ตุลาคม 2553 บริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัท ครั้งที่1 (ตามมติตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ของบริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (ESOP) จำนวน 4,997,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท
  • วันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 บริษัทฯได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัทฯ ครั้งที่1 จากเดิม 170,000,000 บาท เป็น 171,121,500 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
  • บริษัทขยายสาขาเพิ่มจาก 73 สาขาเป็น 78 สาขา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553
ปี 2554
  • วันที่ 28-30 ตุลาคม 2554 บริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัท ครั้งที่2 (ตามมติตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ของบริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (ESOP) จำนวน 4,997,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท
  • วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 บริษัทฯได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 จากเดิม 171,121,500 บาท เป็น 172,287,750 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
  • บริษัทขยายสาขาเพิ่มจาก 78 สาขาเป็น 79 สาขา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554
ปี 2555
  • วันที่ 15 มีนาคม 2555 บริษัทได้รับรางวัลเกียรติยศ "ใบโพธิ์บิสสิเนส อวอร์ด" ถึง 3 มิติ ได้แก่ ด้านสินค้ามีคุณภาพสูง ด้านวัตกรรม และด้านความแข็งแกร่งของตราสินค้า
  • วันที่ 28-30 ตุลาคม 2555 บริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัท ครั้งที่2 (ตามมติตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ของบริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (ESOP) จำนวน 4,997,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท
  • วันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 บริษัทฯได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 จากเดิม 172,287,750 บาท เป็น 173,297,625 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
  • วันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2012 ถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลยอดเยี่ยมด้านนักลงทุนสัมพันธ์ และรางวัลดีเด่นด้านผลการดำเนินการ จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร
  • บริษัทขยายสาขาเพิ่มจาก 79 สาขาเป็น 95 สาขา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555


ปี 2556
  • วันที่ 28-30 ตุลาคม 2556 บริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัท ครั้งที่4 (ตามมติตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ของบริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (ESOP) จำนวน 4,997,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท
  • วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 บริษัทฯได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งจัดสรรให้แก่ กรรมการ และพนักงานของบริษัทฯ ครั้งที่ 4 จากเดิม 173,297,625 บาท เป็น 174,273,125 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
  • วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2013 ถึง 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม รางวัลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และรางวัลด้านผลการดำเนินการดีเด่น ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เช่นเดียวกัน จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร
  • บริษัทขยายสาขาเพิ่มจาก 95 สาขา เป็น 108 สาขา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556



ปี 2557
  • เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2557 สถาบัน เอช อาร์ ดี แอนด์เวิร์ป ซึ่งเป็นสถาบันอัญมณีศาสตร์อันดับ 1 จากเมืองแอนด์เวิร์ป ศูนย์กลางวงการเพชรระดับโลกแห่งประเทศเบลเยี่ยม ได้มอบรางวัลระดับโลก "HRD Antwerp Certified Diamond Jeweller" ให้แก่เพชร "ยูบิลลี่" เป็นรายแรกของโลก เนื่องจากผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านคุณภาพสินค้า และการให้บริการในระดับแนวหน้าของโลก ทั้งยังมีความโดดเด่นด้านการบริหารที่มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
  • วันที่ 30 กันยายน 2557 นายวิโรจน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและคณะได้เดินทางไป ณ เมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อรับมอบรางวัล HRD Antwerp Diamond Ambassador จาก HRD Antwerp Institute of Gemmology โดยได้รับเกียรติจาก Ms. Cathy Bercx ผู้ว่าราชการเมืองแอนด์เวิร์ปเป็นผู้มอบรางวัล และให้การต้อนรับอย่าง
  • สมเกียรติถือเป็นบุคคลแรกในโลกที่ได้รับรางวัลและได้นำชื่อเสียงสู่ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติและเป็นโอกาสอันดีที่จะต่อยอดความสำเร็จครั้งนี้ในการผลักดันและส่งเสริมการนำเสนอนวัตกรรม และยกระดับมาตรฐานเครื่องประดับเพชรไทยสู่สากล
  • วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2014 ถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จ (SET Award of Honor) ด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และรางวัลด้านผลการดำเนินการดีเด่น ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เช่นเดียวกัน จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร

ปี 2558
  • เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 บริษัทฯ แถลงข่าวเปิดตัว “JUBILEE OF SIAM” Flagship Store แห่งแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และยังเป็น Diamond Boutique ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 คณะกรรมการบริษัทมีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งนางสาว อัญรัตน์ พรประกฤต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมานางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ได้ทุ่มเทการทำงาน มีผลงานที่โดดเด่นเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชร ยืนยันด้วยรางวัลอันทรงเกียรติต่างๆที่ได้รับจากสถาบันระดับประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับยูบิลลี่จนเป็นที่ยอมรับ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
  • วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 บริษัทได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จ (SET Award of Honor) ด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ในงาน SET Awards 2015 จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร

ปี 2559
  • บริษัทฯ ได้ทำสัญญากับ Forevermark Limited เกี่ยวกับการได้รับลิขสิทธิเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์FOREVERMARK แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยเปิดตัวสาขาแรกของประเทศไทยที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559
  • เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2559 บริษัทฯได้รับรางวัลและประกาศนียบัตรรับรอง “องค์กรนวัตกรรมยอดเยี่ยม” กลุ่มบริการ ประจำปี 2559 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากคณะผู้วิจัยได้เข้าเยี่ยมชมและประเมินศักยภาพทางนวัตกรรม นับเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าว

ปี 2560
  • ณ 31 ธันวาคม 2560 มีสาขาทัวประเทศรวม 125 สาขา
ปี 2561
  • เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2561 บริษัทฯ จัดงานเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ “JUBILEE iMOMENT” ซึ่งเป็นการประสาน AI เข้ามาบันทึกเรื่องราวของผู้สวมใส่มาผ่านเครื่องประดับเพชรเป็นที่แรกของโลก
  • เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัลผู้บริหารสูงสุดรุ่นใหม่ หรือ Young Rising Star CEO Award ในงาน SET AWARD 2018
  • และ ณ 31 ธันวาคม 2561 มีสาขาทั่วประเทศรวม 130 สาขา

ปี 2562
  • เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 บริษัทเปิดตัว e-commerce ซึ่งเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ภายใต้ชื่อ www.jubileediamond.co.th ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ และรวมไปถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ที่ไม่มีสาขาของบริษัทด้วย
  • เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 บริษัทเปิดตัว “LINE Friends Collection” ซึ่งเป็นเครื่องประดับเพชรที่ทำมาจากเงิน โดยบริษัทวางกลยุทธ์ว่าเป็นเครื่องประดับเพชรสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ของบริษัท คือ กลุ่มมิลเลเนียนอายุประมาณ 18 -29 ปี ที่มีกำลังซื้อและสามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากราคาของสินค้าเริ่มต้นที่ 2,900 บาท โดยกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะพัฒนาเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคตของบริษัท


ปี 2563
  • เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 บริษัทได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร Forbes ติดอันดับ Asia’s 200 Best Under A Billion 2020 ซึ่งเป็น 1 ใน 19 บริษัทไทยที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 200 บริษัทมหาชน ที่รายได้ต่ำกว่ำพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2563 โดยมีรายได้และกำไรเติบโตดีอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อหุ้นแข็งแกร่งตลอด 5 ปีย้อนหลัง
  • เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2020 คือ รางวัลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ปี 2564
  • ในปี 2564 บริษัทมีการขยายสาขา ลักษณะพื้นที่เช่า ทั่วประเทศรวม 2 สาขา ดังนี้
  1. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาศรีราชา
  2. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาอยุธยา
    และ ณ 31 ธันวาคม 2564 มีสาขาทั่วประเทศรวม 128 สาขา

ปี 2565
  • บริษัทมีสาขาจำนวน 130สาขาซึ่งครอบคลุมและเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศไทย ซึ่งนอกจากการเปิดสาขาใหม่แล้วนั้น บริษัทยังมีการปรับปรุงพื้นที่สาขาเดิมในพื้นที่ศักยภาพ เช่น Central พระราม 2 ให้มีความกว้างขวางและรองรับลูกค้าได้มากขึ้น
ปี 2566
  • บริษัทได้รับรางวัล Thailand's Best Managed Companies จากดีลอยท์ ประเทศไทย ซึ่งมอบให้กับบริษัทที่มีการบริหารจัดการยอดเยี่ยมใน 4 ด้าน ได้แก่ ได้แก่ ด้านกลยุทธ์ ความสามารถและนวัตกรรม วัฒนธรรมองค์กรและพันธสัญญา ตลอดจนการกำกับดูแลและการเงินขององค์กร โดยบริษัทที่สมัครเข้าร่วมโปรแกรมต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวดโดยคณะกรรมการตัดสินอิสระในแต่ละประเทศ กระบวนการประเมินผลเพื่อมอบรางวัลเป็นไปตามแนวทางของการมอบรางวัลระดับสากล ที่ดีลอยท์ได้จัดขึ้นใน 46 ประเทศทั่วโลก เป็นเวลายาวนานกว่า 25 ปี
  • บริษัทได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CGR) ในระดับ "Very Good" สำหรับปีนี้ พัฒนาจากปีก่อนที่ได้รับ rating ระดับ "Good"

ปี 2567
  • เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 บริษัทจัดงาน “LOVE 100 Diamonds, The Diamond of a Lifetime” ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ LOVE100 Diamonds แบรนด์เพชรระดับโลกสัญชาติเบลเยี่ยม และเปิดตัวแบรนด์ “LOVE100” เพชรทรงกลมที่เจียระไนถึง 100 เหลี่ยม โดดเด่นด้วยความเจิดจรัสไร้ที่ติจากประกายความงามที่สูงกว่าเพชรกลม ปกติถึง 25% การันตีด้วยนวัตกรรมการเจียระไนระดับโลกจาก Tolkowsky Craftsman ตระกูลผู้สร้างสัดส่วนการเจียระไนเพชรทรงกลมที่เป็นมาตรฐานมาจนถึงปัจจุบัน
  • เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัลนักการตลาดหญิงยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย “Asia’s Top Outstanding Woman Marketeer of the Year 2024” จากสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (Asia Marketing Federation – AMF) สะท้อนถึงความเป็นผู้นำที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมนวัตกรรมและกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการผู้บริโภค
  • เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เปิดตัว “Jubilee Online Store” แพลตฟอร์มโฉมใหม่ ให้ความรู้สึกทันสมัย และมีความเป็นสากลมากขึ้น โดยการรวม Brand site เข้ากับ Shopping site ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ตอบโจทย์การเข้าถึงเครื่องประดับเพชรได้แบบทุกที่ทุกเวลา
  • เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้รับรางวัล HOWE Smart CEO Award 2024 รางวัลที่ยกย่องผู้นำธุรกิจที่มีความสามารถโดดเด่นในการบริหารจัดการและพัฒนาบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 บริษัทได้รับรางวัล Thailand’s Best Managed Companies ติดต่อกันเป็นปีที่สอง โดย Deloitte Thailand นับเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรของไทย ที่ดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานการบริหารจัดการระดับสูง ด้วยการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมและการมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรมที่ทันสมัย สู่การเป็นแบรนด์ระดับประเทศที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

ปี 2568
  • บริษัทได้รับรางวัล “Thailand Top Company Awards 2568” สาขา Customer Focus Award จัดโดยนิตยสาร BUSINESS+ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้า ภายใต้แนวคิด Beating the Unpredictable เอาชนะทุกความท้าทายที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยรางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Jubilee Diamond ในการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) พร้อมยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจของบริษัท

  • ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจําหน่ายเครื่องประดับเพชร เพชรกะรัต ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Jubilee Diamond”โดยสร้างนวัตกรรมใหม่ ให้เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณีในประเทศไทย

  • บริษัทค้าปลีกเครื่องประดับเพชรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI

  • เป็นผู้บุกเบิกช่องทางการจัดจําหน่ายในรูปแบบเคาน์เตอร์เพชรในห้างสรรพสินค้า และเป็นผู้ยกระดับมาตรฐานการซื้อขาย เครื่องประดับเพชรในประเทศไทยให้ทัดเทียมกับระดับนานาชาติ

  • บริษัทฯ มีจํานวนสาขามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยโดยมีสาขาคลอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

  • บริษัทฯนําเข้าวัตถุดิบเพชรคุณภาพสูงจากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเจียระไนเพชรที่ดีที่สุดของโลก บริษัทฯ มุ่งเน้นในการพัฒนา ทั้งคุณภาพ และดีไซน์ของสินค้า รวมถึงการให้บริการอย่างมืออาชีพเพื่อ สร้างความพึงพอใจและประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้า พร้อมมุ่งเน้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมธุรกิจเครื่องประดับอัญมณีของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

สารจากคณะกรรมการบริษัท

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ตลอดระยะเวลา 95 ปีที่ผ่านมา บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรและเพชรกะรัต โดยเน้นการสร้างความเชื่อมั่นและความเข้มแข็งให้กับเครื่องหมายการค้า “เพชรยูบิลลี่” รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและเพชรกะรัตในประเทศไทย อย่างยั่งยืน และส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรในประเทศไทยสามารถยกระดับขึ้นไปทัดเทียมในระดับนานาชาติ ด้วยการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการที่เป็นเลิศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ รวมกับการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทในทุกภาคส่วน

ปี 2567 บริษัทได้เผชิญหน้ากับความท้าทายในการดำเนินธุกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากหลากหลายปัจจัย ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง มาตรการสินเชื่อที่มีความเข้มงวดมากขึ้น การฟื้นตัวที่ล่าช้าของภาคการผลิต การได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การอุปโภคและบริโภคสินค้าลดลง และด้วยความกังวลต่อผลกระทบจากการการแข่งขันทางการค้ารอบใหม่ ซึ่งจะมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการค้าและการลงทุนของประเทศไทย ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการตัดสินใจในการลงทุนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน จึงเป็นอีกปีที่บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทเลือกใช้การจัดกิจกรรมทางการตลาดที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมลักชูรี่ ที่มองหาเพชรและเครื่องประดับเพชรที่ต้องอาศัยฝีมือขั้นสูงในการรังสรรค์ มีความพิเศษเฉพาะตัว สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ สอดคล้องกับตลาดสินค้าพรีเมี่ยมลักชูรีในประเทศไทยที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทที่มุ่งเน้นและสื่อสารคุณภาพระดับเวิร์ลคลาสมาโดยตลอด อีกทั้งยังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้สอดรับกับเป้าหมายในการดำเนินงานของบริษัท นำไปสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน และด้วยความร่วมมือของบุคลากรทุกฝ่าย ตลอดไปจนถึงการร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่างๆ ส่งผลให้ในปี 2567 นี้บริษัทมียอดจากการขายสินค้าเป็นจำนวน 1,415.89 ล้านบาท และมีกำไรเบ็ดเสร็จจำนวน 140.56 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.81 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารจัดการของผู้นำองค์กรที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในธุรกิจ ซึ่งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างรากฐานเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ผ่านแนวคิดที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับบุคลากรของบริษัท ส่งผลให้บริษัทได้รับรางวัล Thailand’s Best Managed Company จาก Deloitte Thailand ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยนอกจากจะสร้างกำลังใจในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้บริหารและพนักงานในองค์กรทุกคน การได้รับรางวัลดังกล่าว ยังเป็นรางวัลซึ่งการันตีว่าบริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการกลยุทธ์และการดำเนินงานยอดเยี่ยมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ กลยุทธ์ (Strategy) นวัตกรรม (Capabilities and Innovation) วัฒนธรรมองค์กร (Culture and Commitment) และ การกำดับดูแลกิจการตลอดจนตัวเลขทางการเงิน (Governance and Financials)

โดยในนามของคณะกรรมการ บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตลอดจนลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนบริษัทอย่างดีเสมอมา และขอให้เชื่อมั่นว่าบริษัทจะยังคงมุ่งมั่น ทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจ ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี รวมถึงขับเคลื่อนธุรกิจบนนโยบายความยั่งยืนของบริษัท ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่ปีต่อๆ ไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

มนู เลียวไพโรจน์
ประธานคณะกรรมการบริษัท

วิโรจน์ พรประกฤต
ประธานคณะกรรมการบริหาร

คณะกรรมการบริษัท

นายมนู เลียวไพโรจน์

ประธานกรรมการบริษัท / กรรมการอิสระ

วุฒิการศึกษา
  • ปริญญาเอก บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ปริญญาโท เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต, University of Kentucky, สหรัฐอเมริกา
  • ปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 30/2003
  • หลักสูตร Course Role of Chairman Program (RCP) รุ่นที่ 3/2001
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ
  • ปริญญาบัตร วปอ. รุ่นที่ 34
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

200,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.115

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2551 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

2559 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)2559 - ปัจจุบันประธานกรรมการตรวจสอบ / บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)2554 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)2553 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน)2549 - ปัจจุบันประธานกรรมการตรวจสอบ / บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)2547 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน)2547 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)2547 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

นายวิโรจน์ พรประกฤต

รองประธานกรรมการบริษัท / ประธานกรรมการบริหาร

วุฒิการศึกษา
  • มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสหพาณิชย์
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 72/2008
  • หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 113/2009
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ
  • หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 18
  • หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่น 24
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

65,611,100 หุ้น หรือร้อยละ 37.648

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2551 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

2547 - ปัจจุบันประธานกรรมการบริหาร / บริษัท เจ.บี. แอสเสท จำกัด

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

นางสุวัฒนา ตุลยาพิศิษฐ์ชัย

กรรมการบริษัท / รองประธานคณะกรรมการบริหารอาวุโส

วุฒิการศึกษา
  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช) โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 72/2008
  • หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 113/2009
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ

ไม่มี

สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

12,249,000 หุ้น หรือร้อยละ 7.029

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2551 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

ไม่มี

การดำรงตำแหน่งในกิจการอื่นที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน

2547 - ปัจจุบันประธานกรรมการบริหาร / บริษัท เจ.บี. แอสเสท จำกัด

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต

กรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

วุฒิการศึกษา
  • ปริญญาโท พาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 72/2008
  • หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 113/2009
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ
  • หลักสูตร ความรู้และการตรวจสอบคุณภาพอัญมณี นักอัญมณีศาสตร์สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
  • คณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ด้านแฟชั่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
  • สมาชิก Young Presidents' Organization (YPO) องค์กรผู้นำระดับโลก
  • โครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2567
  • หลักสูตร ผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่นที่ 29
  • หลักสูตร ผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน Capital Market Academy (วตท.) รุ่นที่ 31
  • หลักสูตร Chief Transformation Officer ของสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
  • หลักสูตร Chief Financial Officer รุ่นที่ 10/2008 ของสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

6,249,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.586

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2551 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

ไม่มี

การดำรงตำแหน่งในกิจการอื่นที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน

2547 - ปัจจุบันประธานกรรมการบริหาร / บริษัท เจ.บี. แอสเสท จำกัด

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

นายอำนวย นาครัชตะอมร

ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ / กรรมการอิสระ

วุฒิการศึกษา
  • ปริญญาโท บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • หลักสูตร มินิเอ็มบีเอ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บันฑิต สาขาเคมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 76/2008
  • หลักสูตร Audit Committee Program (ACP) รุ่นที่ 25/2009
  • หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 210/2015
  • หลักสูตร Hot Issue for Directors: Enhancing Governance, Standards, and Financial Insights รุ่นที่ 2/2024
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ
  • ไม่มี
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

66,050 หุ้น คิดเป็น ร้อยละ 0.038

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2551 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

ไม่มี

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

นางสาวซนวา เด่นเมฆา

กรรมการตรวจสอบ / กรรมการอิสระ

วุฒิการศึกษา
  • ปริญญาโท บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาบัญชี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช
  • ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 76/2008
  • หลักสูตร Audit Committee Program (ACP) รุ่นที่ 35/2011
  • หลักสูตร Hot Issue for Directors: Climate Governance รุ่นที่ 1/2023
  • หลักสูตร Hot Issue for Directors: Enhancing Governance, Standards, and Financial Insights รุ่นที่ 2/2024
  • หลักสูตร Emerging Audit Standards and Implications for the Audit Committee
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ
  • หลักสูตร สรุปหลักการบัญชีสำคัญ ที่นักบัญชีต้องทราบในการจัดทำบัญชี ของธรรมนิติ
  • หลักสูตร ปัญหาการบันทึกรายการทางบัญชีในช่วงสิ้นปี – ต้นปีสำหรับผู้ทำบัญชี ของธรรมนิติ
  • หลักสูตร การทุจริตในการตกแต่งงบการเงิน Update สภาพเศรษฐกิจและทิศทาง ESG กับคาร์บอนไดออกไซด์ ของสำนักงาน อีวาย
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

ไม่มี

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2551 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

ไม่มี

การดำรงตำแหน่งในกิจการอื่นที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน

2555 - ปัจจุบัน Accounting and Tax Planning Consultants / I.A Chemical Co., Ltd.2561 - ปัจจุบันAccounting and Finance Consultants / Pro Machinery Co., Ltd.

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์

กรรมการตรวจสอบ / กรรมการอิสระ

วุฒิการศึกษา
  • ปริญญาโท บริหารธุรกิจ Columbia Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
  • หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 312/2021
  • หลักสูตร Director Leadership Certification Program (DLCP) รุ่นที่ 6/2022
การอบรบหลักสูตรอื่นๆ
  • หลักสูตร ผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 16
  • หลักสูตร Super Series: Leadership & Effective Corporate Culture รุ่นที่ 3 ของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (IRDP)
  • หลักสูตร ธรรมาภิบาลทางการแพทย์สาหรับผู้บริหารระดับสูง (TMC) รุ่นที่ 3 ของสถาบันพระปกเกล้าและแพทยสภา
  • สัมมนาเชิงปฏิบัติการด้าน Cyber Resilience Leadership: Herd Immunity ธนาคารแห่งประเทศไทย
  • หลักสูตรประกาศนียบัตรไทยกับประชาคมอาเซียนในเศรษฐกิจการเมืองโลก รุ่นที่ 11 ของสถาบันพระปกเกล้า
  • หลักสูตร Board Essentials Program (BEP) รุ่นที่ 1 ของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (IRDP)
  • หลักสูตร Super Series: Board’s Best Practices and Future Top Challenges รุ่นที่ 4 ของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (IRDP)
  • หลักสูตร การกำกับดูแลกิจการสำหรับกรรมการและผู้บริหารระดับสูงขององค์กรกำกับดูแล (Regulators) รัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน (PDI) รุ่นที่ 27 สถาบันพระปกเกล้า
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

ไม่มี

ปีที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ

ตั้งแต่ปี 2563 - ปัจจุบัน

การดำรงตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียนอื่น

ไม่มี

การดำรงตำแหน่งในกิจการอื่นที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน

2566 - ปัจจุบันประธานกรรมการ / บริษัท เงินดีดี จำกัด2566 - ปัจจุบันกรรมการอิสระ / บริษัท ทิพย ไอบี จำกัด2565 - ปัจจุบันที่ปรึกษาคณะกรรมการ / บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด2565 - ปัจจุบันประธานกรรมการบริหาร / ธนาคารออมสิน2565 - ปัจจุบันประธานกรรมการสรรหา / ธนาคารออมสิน2564 - ปัจจุบันกรรมการอิสระ / ธนาคารออมสิน2563 - 2565ผู้ทรงคุณวุฒิ / ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย2563 - 2565ที่ปรึกษา / บริษัท อมรินทร์เทเลวิชั่น จำกัด

การดำรงตำแหน่งในกิจการที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อบริษัท

ไม่มี

ประวัติการทำผิดทางกฎหมาย

ไม่มี

คณะกรรมการบริหาร

โครงสร้างองค์กร