ทองคำเหลือง ทองชมพู ทองขาว สีทองแบบไหนเหมาะกับแหวนเพชร ?
ทองคำเหลือง ทองชมพู ทองขาว สีทองแบบไหนเหมาะกับแหวนเพชร ?
การเลือกแหวนเพชร ไม่ได้จบแค่การเลือกเพชร แต่สีของทองที่ใช้เป็นตัวเรือนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสีทองที่เหมาะสมจะช่วยขับให้เพชรดูโดดเด่นและสวยงามยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้แหวนเข้ากับสีผิวและสไตล์การแต่งตัวของผู้สวมใส่ได้อย่างลงตัวด้วย

รู้จักสีทองที่ใช้ทำตัวเรือนแหวนเพชร
- ทองคำเหลือง (Yellow Gold) : สีเหลืองทองที่คล้ายกับสีของทองแท้ตามธรรมชาติ มีเฉดสีตั้งแต่เหลืองอ่อนไปจนถึงเหลืองเข้ม ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของโลหะที่ผสมเข้าไป ทองคำเหลืองเป็นสีคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบความดั้งเดิมและความหรูหราที่ไม่ตกยุค
- ทองชมพู (Rose Gold) : สีชมพูอมทองหรือชมพูอมทองแดง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวล มีหลายเฉดสี ตั้งแต่ชมพูอ่อนไปจนถึงชมพูเข้มที่คล้ายทองแดง สีชมพูนี้เกิดจากการผสมทองคำกับทองแดงในปริมาณมาก ยิ่งมีทองแดงมาก สีก็จะยิ่งเข้ม จึงยิ่งขับเน้นความโดดเด่นและให้ความรู้สึกโรแมนติกที่ไม่เหมือนใคร
- ทองขาว (White Gold) : ทองขาวได้จากการผสมทองคำกับโลหะสีขาวอย่างนิกเกิล แพลเลเดียมหรือเงิน เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัย และยังสามารถเข้ากับเพชรได้อย่างลงตัว ทำให้เพชรดูเปล่งประกายโดดเด่นมากขึ้น
ข้อดีและข้อจำกัดของตัวเรือนแหวนเพชรสีทองแต่ละประเภท
ทองคำเหลือง (Yellow Gold)ข้อดี
- คลาสสิกและไร้กาลเวลา : ทองคำเหลืองเป็นสีทองที่ใช้กันมายาวนานและไม่เคยตกยุค จึงเหมาะกับผู้ที่ชอบความคลาสสิกเรียบง่ายแบบดั้งเดิม
- เข้ากับสีผิวที่มีอันเดอร์โทนสีเหลืองหรือสีทอง : ช่วยขับให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี
- ขับให้เพชรดูสวยและโดดเด่นขึ้น : ตัวเรือนทองคำเหลืองจะกลมกลืนและเสริมเฉดสีของเพชรให้ดูอบอุ่นน่าดึงดูด
- ไม่ต้องชุบใหม่บ่อย ๆ : เนื่องจากเป็นสีธรรมชาติของทองคำ จึงไม่มีปัญหาการหลุดลอกของชั้นเคลือบเหมือนทองคำประเภทอื่น ๆ
ข้อจำกัด
- อาจทำให้เพชรขาวดูเหลืองได้ : หากเพชรไม่ใสพอ สีเหลืองของทองอาจสะท้อนเข้าไปในเพชรได้
- เป็นรอยขีดข่วนง่าย : ทองคำเหลืองมีความบริสุทธิ์สูง ทำให้ค่อนข้างอ่อนและเป็นรอยง่าย จึงต้องระมัดระวังในการสวมใส่
- อาจดูเชยสำหรับบางคน : แม้จะเป็นสีตัวเรือนที่คลาสสิก แต่บางคนอาจมองว่าไม่ทันสมัยเท่าทองคำขาวหรือทองชมพู
- เกิดออกซิเดชันได้ : เมื่อเวลาผ่านไป อาจเกิดการออกซิเดชัน ทำให้ตัวเรือนดูหมองลงได้ ดังนั้น จึงต้องขัดทำความสะอาดเป็นระยะ
ทองชมพู (Rose Gold)
ข้อดี
- มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว : ให้ลุคที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร ดูทันสมัยแต่ยังมีกลิ่นอายของความวินเทจที่น่าหลงใหล
- เข้ากับทุกสีผิว : โดยเฉพาะผิวที่มีอันเดอร์โทนชมพู จะช่วยขับให้ผิวดูอบอุ่นและมีสุขภาพดี ทำให้ผู้สวมใส่ดูสดใสมีชีวิตชีวา
- ซ่อนรอยขีดข่วนได้ดี : ด้วยสีที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้รอยขีดข่วนไม่เด่นชัดเท่าตัวเรือนทองคำสีอื่น ๆ จึงดูใหม่อยู่เสมอแม้ผ่านการใช้งานมานาน
- ทนทานกว่าทองประเภทอื่น : เนื่องจากมีทองแดงผสมอยู่มาก ทำให้มีความแข็งและทนทานสูง เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ข้อจำกัด
- อาจไม่ได้เข้ากับเครื่องประดับทุกสไตล์ : ด้วยสีที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้อาจจับคู่กับเครื่องประดับอื่น ๆ ได้ยากกว่า โดยเฉพาะเครื่องประดับเงินหรือทองขาว
- สีอาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา : เนื่องจากทองแดงอาจเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน จึงอาจทำให้สีเปลี่ยนไปบ้างตามอายุการใช้งาน
- หาซื้อยากกว่า : ตัวเรือนทองคำชมพู อาจไม่มีให้เลือกหลากหลายเท่าทองเหลือง เพราะเพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
- อาจไม่เหมาะกับเพชรบางสี : เช่น เพชรที่มีเฉดสีเหลืองอ่อนอาจไม่เข้ากับทองชมพูเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์ส่วนตัวของผู้สวมใส่
ทองขาว (White Gold)
ข้อดี
- สวยและทันสมัย : ทองขาวให้ลุคที่ดูทันสมัย เรียบหรู เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแต่ดูหรูหรามีระดับ
- ขับเน้นความเปล่งประกายของเพชร : สีขาวเงินของทองขาวช่วยสะท้อนแสงและขับให้เพชรส่องประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้น
- เข้ากับทุกสีผิว : โดยเฉพาะผิวที่มีอันเดอร์โทนเย็น หรือผิวขาวอมชมพู ช่วยให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น
- มีความแข็งแรงทนทาน : เนื่องจากผสมกับโลหะอย่างนิกเกิลหรือแพลเลเดียม จึงมีความทนทานสูงกว่าทองคำเหลือง
ข้อจำกัด
- ต้องชุบใหม่เป็นระยะ : ชั้นเคลือบโรเดียมที่ให้ความเงางามสีขาวจะเสื่อมสภาพตามเวลา ต้องนำไปชุบใหม่ทุก 1-2 ปี เพื่อรักษาความเงางาม
- อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ : หากผสมด้วยนิกเกิล อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จึงควรเลือกทองขาวที่ผสมด้วยแพลเลเดียมหรือเงินแทน
- ราคาค่อนข้างสูง : โดยเฉพาะทองขาวที่ผสมด้วยแพลเลเดียม มีราคาสูงกว่าทองเหลืองและทองชมพูในความบริสุทธิ์เดียวกัน
ปัจจัยสำคัญในการเลือกสีทองสำหรับตัวเรือนแหวนเพชร
1. พิจารณาจากสีของเพชร
สีของเพชรเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกสีของตัวเรือน เพราะตัวเรือนที่เหมาะสมจะช่วยขับให้เพชรดูสวยงามยิ่งขึ้น ดังนี้
- เพชรสีขาว (D-F) : เพชรที่มีความใสไร้สีหรือขาวใสมาก จะเข้าได้ดีกับทองขาวมากที่สุด เพราะช่วยเน้นความใสบริสุทธิ์ของเพชร อย่างไรก็ดี ทองชมพูก็สร้างความตัดกันที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้เพชรดูโดดเด่นและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ
- เพชรสีขาวนวล (G-J) : สามารถเข้าได้กับตัวเรือนทองคำทั้งสามประเภท โดยทองเหลืองจะกลมกลืนไปกับเพชร ทองขาวจะช่วยอำพรางความนวลเล็กน้อย ในขณะที่ทองชมพูจะสร้างความตัดกันที่น่าสนใจ
- เพชรสีนวลเหลืองอ่อน (K-M) : เข้ากับทองคำเหลืองได้ดีที่สุด เพราะช่วยให้สีเหลืองอ่อนของเพชรดูเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ มากกว่าดูเป็นข้อบกพร่อง
2. สไตล์และโทนสีผิวของผู้สวมใส่
นอกจากสีของเพชรแล้ว สีผิวและสไตล์ส่วนตัวของผู้สวมใส่ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยผู้ที่มีสีผิวในโทนต่าง ๆ สามารถเลือกสีของตัวเรือนตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- สีผิวโทนเย็น : มักเข้ากับทองขาว เพราะช่วยขับให้ผิวดูสว่างสดใส หรืออาจเลือกทองชมพูเพื่อขับผิวให้ดูนุ่มนวล และดูสุขภาพดีก็ได้เช่นกัน
- สีผิวโทนร้อน : มักเข้ากับทองคำเหลืองหรือทองชมพูได้ดี เพราะช่วยเสริมให้ผิวดูอบอุ่น สว่าง และมีออร่ามากขึ้น โดยเฉพาะทองคำเหลืองจะช่วยขับให้สีผิวโทนร้อนดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
- ความชอบส่วนตัว : บางคนอาจชอบตัวเรือนทองเหลืองที่ดูคลาสสิก ทองขาวที่ดูสะอาดตา หรือตัวเรือนทองชมพูที่หวานนิด ๆ ดูโรแมนติก ทั้งนี้ การเลือกตามความชอบส่วนตัวจะทำให้รู้สึกมั่นใจทุกครั้งที่สวมใส่
3. ลักษณะของเพชร
รูปทรงและการเจียระไนของเพชรก็มีผลต่อการเลือกสีทองของตัวเรือนเช่นเดียวกัน
- เพชรเจียระไนแบบคลาสสิก (เช่น Round Brilliant Cut) : เข้าได้กับทองทุกสี ขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้เพชรโดดเด่นแบบไหน
- เพชรเจียระไนแบบวินเทจ (เช่น Old Mine Cut, Rose Cut) : เข้ากับทองชมพูได้ดี เพราะช่วยเสริมความวินเทจและเพิ่มเอกลักษณ์ ทำให้แหวนดูมีเรื่องราวที่น่าสนใจ
4. การดูแลรักษา
ปัจจัยด้านการดูแลรักษาก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกสีทองสำหรับทำตัวเรือนแหวนเพชร
- ไลฟ์สไตล์แอ็กทิฟ : ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง ที่ใช้มือทำงานหรือกิจกรรมหลากหลาย อาจเลือกทองชมพู เพราะตัวเรือนจะค่อนข้างคงทนต่อการใช้งานหนักและไม่ค่อยเกิดรอยขีดข่วน
- การบำรุงรักษา : หากไม่อยากบำรุงรักษาบ่อย ๆ สามารถเลือกได้ทั้งตัวเรือนทองคำเหลืองหรือทองชมพู เนื่องจากมีความทนทานสูงและไม่จำเป็นต้องชุบใหม่บ่อย จึงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

การเลือกสีทองสำหรับตัวเรือนแหวนเพชรไม่มีกฎตายตัวว่าแบบไหนดีที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งสีของเพชร สีผิวของผู้สวมใส่ สไตล์ความชอบส่วนตัว และความสะดวกในการดูแลรักษา แต่สิ่งสำคัญคือ ควรเลือกสีทองที่ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจและภูมิใจทุกครั้งที่สวมใส่ เพราะแหวนเพชรไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่ยังเป็นสิ่งที่จะอยู่กับคุณไปอีกยาวนาน
มองหาแหวนแต่งงานเพชรแท้ที่เป็นตัวแทนความรักและคุณภาพชั้นเลิศ Jubilee Diamond แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำของเราพร้อมนำเสนอคอลเลกชันแหวนที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพชรและเครื่องประดับของเราทุกชิ้นการันตีคุณภาพระดับ World Class คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด หากสนใจ สามารถเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ 130 สาขาทั่วประเทศ หรือเลือกซื้อง่าย ๆ ผ่าน Jubilee Online Store เพราะไม่ว่าคุณจะเลือกเครื่องประดับชิ้นไหน ก็คือ World-Class Quality ที่คุณมั่นใจ เพราะเราคือที่สุดเรื่องเพชรเพื่อคุณ









